Workshop ฟรี! “สร้างรายได้ให้ปัง ด้วยเทรนด์ฮิตอาหารสุขภาพ”
กิจกรรม Workshop Marko HoReCa เชิญชวนสมาชิกแม็คโคร ร่วมเรียนรู้การทำอาหารสุขภาพในสไตล์โมเดิร์น
โดยเชฟศักดิ์ชัย ดิษฐสกุล คณะกรรมการบริหารสมาคมเชฟไทย (Thai Chefs’ Association) เป็นวิทยากรในครั้งนี้
เชฟเล่าว่า ค่าความสนใจในเรื่องของสุขภาพมีแนวโน้มมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะการออกกำลังกายเพื่อให้มีหุ่นสวย
และการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพที่ดี ในการทำธุรกิจร้านอาหารเพื่อสุขภาพ จะต้องรู้จักลูกค้าทั้ง 6 กลุ่มนี้ก่อน ดังนี้
- Healthy life กลุ่มคนทำงานที่รักสุขภาพ อายุ 45-55 ปี
- Loves beautiful กลุ่มนักศึกษาที่อยากมีหุ่นดี ทานน้อย แต่เลือกทาน
- กลุ่มที่ไม่มีเวลาทำอาหารมื้อเย็น หรือจัดหาเพื่อนำไปให้ผู้สูงอายุและผู้ที่มีโรค NCDs
- Try to lose weight กลุ่มที่พยายามลดน้ำหนัก
- To eat exotic กลุ่มที่อยากทานของแปลกใหม่
- Love yourself กลุ่มที่ชอบออกกำลังกายและควบคุมอาหาร อายุตั้งแต่ 40-80 ปี
ทั้งนี้ เชฟได้แนะนำการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพที่ถูกต้องทั้ง 4 แบบ พร้อมเมนูอาหารที่ทำง่าย อร่อยได้สุขภาพ
- Ketogenic Diet
คีโตเจนิคไดเอต คือการลดน้ำหนักด้วยการงดทานอาหารกลุ่มคารโบไฮเดรต หรือทานได้แต่ไม่เกิน 5% จากปริมาณอาหารรวม
เน้นทานอาหารประเภทไขมันดีให้ได้ร้อยละ 75-80% ควบคู่ไปกับอาหารหมู่โปรตีน เพื่อปรับการทำงานของระบบเผาผลาญพลังงาน
ถือเป็นการปรับให้ร่างกายเข้าสู่สภาวะเลียนแบบการอดอาหาร เพื่อให้ร่างกายดึงไขมันที่เก็บสะสมไว้มาเผาผลาญเป็นพลังงานแทนน้ำตาล
เราจะไม่รู้สึกเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย และปวดศีรษะ อีกทั้งยังช่วยให้น้ำหนักตัวและไขมันส่วนเกินในร่างกายก็จะลดลงด้วย จึงรู้สึกว่าผอมลง
หลักการปรุงประกอบอาหารคีโตจีนิค คือการลดแป้ง ลดน้ำตาล ไม่มีผงชูรส สามารถทานไขมันไม่อิ่มตัวจากพืช สัตว์ ปลาทะเล ถั่ว
และเมล็ดธัญพืชต่าง ๆ และไม่ควรทานต่อเนื่องเกิน 21 วัน เพราะร่างกายขาดสารอาหารบางตัวได้ วิธีนี้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการไดเอตเท่านั้น
และเป็นวิธีค่อนข้างสุดโต่ง อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ ถ้าใครอยากลดด้วยวิธีนี้ต้องพิจารณาให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของตัวเอง เพื่อสุขภาพที่ดี
แนะนำเมนู Ketogenic Diet
เมนูคีนัวผัดไข่กับไก่นึ่งเต๋า เสิร์ฟกับมะเขือเทศอบแห้ง สลัดผักใบ ซอสน้ำมันมะนาว คีนัวนี้อุดมไปด้วยโปรตีน และไฟเบอร์ มีรสชาติแห้ง
ให้แคลลอรี่ต่ำ และสามารถทานได้ทั้งแบบร้อนแบบเย็น ใส่มะนาวเพื่อแก้เลี่ยน ตกแต่งตามใจเรา
- Balance Foods Diet
คือการรับประทานอาหารให้สมดุลต่อร่างกาย ซึ่งประกอบไปด้วย 3 สารอาหาร ได้แก่ คาร์โบไฮเดรต, โปรตีน และไขมัน ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่สุด
วิธีการกินสำหรับสมดุลของฮอร์โมน คือการรับประทานอาหารจากโปรตีนที่สะอาด, ฮอร์โมนสมดุลไขมันสุขภาพ
ผักที่อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ และสมุนไพรบำบัดจะช่วยให้ร่างกายเจริญเติบโต
แนะนำเมนู Balance Foods Diet
ข้าวผัดปลาทูน่า เสิร์ฟกับแซลม่อนย่าง ผัดถั่วแขก และกุ้งค็อกเทล เป็นอาหารทานง่าย ใส่ข้าวผัดลงถ้วย ตะล่อมข้าวให้สวย
ถ้าอยากให้ทานง่ายควรเป็นปลาที่มีหนังกรอบ ใส่ cucumber ขนาดยาวหรือสั้นก็ได้ตามใจเรา ใส่กุ้งเพื่อเพิ่มสีสันให้กับจาน ปิดท้ายด้วยการโรยแอลม่อนให้สวยงาม
- Vegan Food
อาหารวีเก้น หรืออาหารมังสวิรัติ จะมี 2 แบบ คือ แบบที่กินชีส นม ไข่ น้ำผึ้ง เน้นทานผัก ผลไม้ พืชตระกูลถั่ว และธัญพืชต่าง ๆ
โดยไม่ทานเนื้อสัตว์ และแบบทานเนื้อสัตว์ที่ไม่ใช่สัตว์เนื้อแดง หรือสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม และยังเน้นรับประทานผัก ผลไม้ พืชตระกูลถั่ว และธัญพืชต่าง ๆ
อาจไม่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนัก เพราะร่างกายยังคงต้องการแคลเซียมและโปรตีนอยู่นั่นเอง
ถ้าเข้าใจในสัดส่วนอาหารและเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการให้เหมาะกับร่างกาย ควบคู่ไปกับการออกกำลังกายวันละ 30 นาที ก็จะมีร่างกายที่แข็งแรงได้ไม่ยาก
แนะนำเมนู Vegan Food
ผักราตาตุยพระเอกของจานนี้ เสิร์ฟกับไข่กวนครีมอวาคาโด้ โรยข้าวด้วยเม็ดเฟล็ก และซอสเพสโต้
ราตาตุยคือผักรวมผัดกับซอสมะเขือเทศ เป็นอาหารสุขภาพสามารถทานได้ทั้งแบบร้อนและแบบเย็น สามารถทานแบบเจก็ได้
- Clean Food
การรับประทานอาหารแบบคลีน เป็นการทานอาหารทุกหมู่ในสัดส่วนที่เหมาะสม เนื้อสัตว์ต้องสด สะอาด และไม่ผ่านกระบวนการหมักดอง
หรือปรุงแต่งรส สามารถทานได้สามมื้อ ไม่ต้องอดอาหาร บางเมนูอาจจะไม่คลีนแต่ให้ไร้ไขมัน วัตถุดิบหลักคืออกไก่ลอกหนัง ปลาหรือกุ้งก็สามารถทานได้
สำหรับผู้ที่เริ่มทานอาหารคลีน ต้องเริ่มด้วยการไม่ยึดติดในรสชาติของอาหารแบบเดิม ๆ เพราะการกินคลีนเรื่องรสชาติถือว่าเป็นรอง
แต่จะให้ความสำคัญกับอาหารที่ไม่เน้นการปรุงแต่ง หรือปรุงแต่งให้น้อยที่สุด จะได้รับประโยชน์สูง และสุขภาพดีในระยะยาว
แนะนำเมนู Clean Food
สลัดผักใบกรอบกับไก่ฉีกแฟตต้าชีส กับซอสโยเกิร์ตและน้ำผึ้ง เป็นเมนูกึ่งสลัด ปรุงแต่งรสชาติให้น้อยที่สุดเท่าที่จะน้อยได้
เปลี่ยนบรรยากาศด้วยการใส่ภาชนะกล่องแทนจาน ตกแต่งง่ายไม่ยุ่งยาก
ต่อท้ายด้วยกิจกรรม Workshop ให้ผู้เข้าร่วมงานจับกลุ่มทำอาหารสุขภาพ 4 เมนู โดยมีเชฟศักดิ์ชัยเดินดูอย่างใกล้ชิด
บรรยากาศเต็มไปด้วยความสนุกสนาน ครึกครื้น และเป็นกันเองอย่างที่สุด
คุณลลิตา แสงวิมาน เจ้าของร้านอาหารลลิตา&คาลิส ฮาล้าลฟู๊ด กล่าวว่า “งาน Workshop ครั้งนี้ได้ไอเดียหลายอย่าง
จากเทรนด์อาหารสุขภาพที่กำลังมาแรง แต่ที่ร้านไม่ได้เน้นอาหารสุขภาพสักเท่าไหร่ มาในวันนี้ก็ได้ไอเดียหลาย ๆ อย่างไปปรับใช้กับเมนูอาหารที่ร้านค่ะ”
และคุณนรีนุช สมศรี และคุณพิมพิศาภัสณ์ ตั้งตรงจิตร ผู้ประกอบการ “Kinnon Hostel Co-Working Space และร้านอาหารกินรี”
ได้กล่าวกับเราว่า “งาน Workshop วันนี้ ชอบช่วงที่เชฟให้ความรู้เกี่ยวกับอาหารสุขภาพ และตอนคอมเมนท์อาหารหลังทำ Workshop
เราคิดว่าเทรนด์อาหารสุขภาพเป็นสิ่งที่ดี ก็เหมือนเรากินยาแต่เปลี่ยนอาหารเป็นยาแทน ทำให้เราสุขภาพดีในระยะยาวมันก็ดีกว่า
สามารถนำสิ่งที่เชฟสอนไปปรับปรุงอาหารที่ร้าน และทำอาหารคิดถึงใจผู้บริโภคมากขึ้น เช่น เรื่องปริมาณอาหารที่ควรให้ลูกค้า
ในปริมาณที่พอเหมาะ, การแต่งหน้าตาอาหารก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะช่วยเพิ่มมูลค่าของอาหารเพิ่มขึ้นค่ะ”
กิจกรรมดี ๆ แบบนี้มีขึ้นเป็นประจำตลอดทั้งปี ผู้ประกอบการท่านใดไม่อยากพลาดสามารถติดตามข่าวสารกิจกรรมได้จากเว็บไซต์นี้